Titleist Pro V1 และ Pro V1x เจนเนอเรชั่นล่าสุด

ลูกกอล์ฟ 2023 Titleist Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ เปิดตัวใน PGA TOUR สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่รายการ Sanderson Farms Championship – หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เราวางแผนไว้ ที่จริงแล้ว กระบวนการทดสอบ และประเมินผลโดยผู้เล่นในทัวร์ สำหรับลูกกอล์ฟ 2023 Titleist Pro V1 และ Pro V1x – ลูกกอล์ฟรุ่นล่าสุด ที่จะมาต่อยอดความสำเร็จของลูกกอล์ฟ ที่มีผู้เล่นใช้ลงแข่งขันมากที่สุด ทั้งใน PGA TOUR และการแข่งขันกอล์ฟทุกระดับ – ถูกวางแผนว่าจะเปิดตัวในทัวร์ในสัปดาห์นี้ ที่การแข่งขันรายการ Shriners Hospitals for Children Open ใน Las Vegas

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันก่อนการแข่งขันรายการ Sanderson Farms ทีมดูแลผู้เล่นในทัวร์ของ Titleist ถูกร้องขอจากนักกอล์ฟชั้นนำ อย่าง Garrick Higgo, M.J. Daffue และ Gary Woodland – ที่เคยได้ทดสอบลูกกอล์ฟรุ่นต้นแบบอย่างเจาะลึกก่อนหน้านี้ – พวกเขาต้องการลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ ลงแข่งขันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นต้นแบบ รุ่นสุดท้าย ผลิตที่โรงงาน Titleist Ball Plant 3 ในเมือง Bedford รัฐ Massachusetts ถูกส่งมาตอนกลางคืน และมาถึงสนามกอล์ฟ The Country Club of Jackson วันอังคารก่อนการแข่งขัน โดยบรรจุในกล่องลูกกอล์ฟ Titleist รุ่นต้นแบบสีขาว

ในการแข่งขันวันแรก Higgo (Pro V1), Daffue (Pro V1x) และ Woodland (Pro V1x) เป็นผู้เล่นสามคนแรกที่ใช้ลูกกอล์ฟ รุ่นปี 2023 ลงแข่งขัน เพียงสี่หลุมแรก Daffue ใช้ลูกกอล์ฟ Pro V1x ทำโฮลอินวันในหลุมที่ 4 พาร์ 3 ระยะ 182 หลา ในขณะที่ Higgo ใช้ลูกกอล์ฟ Pro V1 รุ่นใหม่ ทำเบอร์ดี้ได้มากที่สุดที่รายการนี้ (24 เบอร์ดี้) จบวันสุดท้ายที่ 4 อันเดอร์พาร์ 68 จบการแข่งขันอันดับที่สาม

การเก็บข้อมูลความคิดเห็นของผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลก จากทุกขั้นตอนของการวิจัย และพัฒนา จากนั้น นำผลิตภัณฑ์รุ่นต้นแบบมาประเมินผลทางประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพความกดดันของการแข่งขัน เป็นกระบวนการที่สำคัญของเรา ในการพัฒนาลูกกอล์ฟ รวมถึงอุปกรณ์กอล์ฟ ประสิทธิภาพสูงทุกรุ่นของ Titleist

นับจนถึงปัจจุบัน ลูกกอล์ฟรุ่นเรือธงของ Titleist ถูกใช้ลงแข่งขันถึง 72 เปอร์เซ็นต์ของผู้เล่นทั้งหมด ทั้งใน PGA TOUR และทัวร์กอล์ฟอาชีพรายการหลักทั่วโลก เปอร์เซ็นต์ในการใช้ลงแข่งขันของนักกอล์ฟสูงขึ้นไปอีก สำหรับการแข่งขันระดับสมัครเล่นรายการใหญ่ ระดับมหาวิทยาลัย และการแข่งขันกอล์ฟเยาวชน

ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x ถูกใช้ลงแข่งขันโดยแชมป์รายการเมเจอร์ทั้งสี่คน ในปี 2022: Scottie Scheffler (Pro V1), Justin Thomas (Pro V1x), Matt Fitzpatrick (Pro V1x) และ Cameron Smith (Pro V1x)

“Pro V1 และ ProV1x คือ ลูกกอล์ฟที่ดีที่สุดในวงการ ซึ่งยากมากๆว่า ‘คุณจะทำอย่างไร ให้ลูกกอล์ฟที่ดีที่สุด ดีขึ้นไปอีก?’” กล่าวโดย Jordan Spieth ซึ่งคว้าแชมป์เมเจอร์ได้ 3 รายการ และแชมป์  PGA TOUR 13 รายการ ด้วยลูกกอล์ฟ Pro V1x “สำหรับผม เมื่อคุณคิดถึงสิ่งใดที่ดีที่สุด คุณจะต้องต่อสู้กับตัวเอง และพยายามเอาชนะสิ่งที่ดีอยู่แล้วในอดีต และกังวลกับผลการแข่งขัน และผมคิดว่า Titleist ทำได้สำเร็จ พวกเขาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้ผลิตภัณฑ์ดีที่สุด ดีขึ้นไปอีกขั้น ทำให้อยู่อันดับ 1 ต่อเนื่อง และยาวนาน ซึ่งยากที่ใครจะทำได้”  

ในรอบฝึกซ้อมก่อนการแข่งขันกอล์ฟ PGA Tour สัปดาห์นี้ ที่ Las Vegas ทีมวิจัย และพัฒนาลูกกอล์ฟ Titleist, Fordie Pitts และ Jeff Beyers จะทำงานร่วมกันผู้เล่น ในการทดสอบลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ – ทั้งในสนามซ้อมชิพ สนามไดร์ฟ และในสนามกอล์ฟ 

กระบวนการทดสอบ และประเมินผล จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในทุกสัปดาห์ และเดือนถัดไป โดยการทดสอบกับผู้เล่นในทัวร์ นักกอล์ฟอาชีพทั่วไป และนักกอล์ฟสมัครเล่น Team Titleist ทั่วโลก

“สิ่งแรกที่ผมทำ คือ นำลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ ไปทดลองเล่นลูกสั้น สำหรับผม นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด” Scottie Scheffler แชมป์ Masters และเป็นผู้เล่นที่ลงแข่งขันด้วย Pro V1 มาอย่างยาวนาน กล่าว

“จากนั้น ผมจะนำลูกกอล์ฟไปทดลองในสนามไดร์ฟ และเช็คตัวเลขต่างๆ ระยะแครี่ และข้อมูลเกี่ยวข้องอื่นๆ จากนั้น นำไปออกรอบในสนามกอล์ฟ เล่นช็อตต่างๆ ผมทำแบบเดียวกันกับที่กรีนซ้อมชิพ โดยนำลูกกอล์ฟรุ่นที่ใช้อยู่ มาตีเปรียบเทียบกับลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ โดยเล่นช็อตแบบเดียวกัน และดูว่าลูกกอล์ฟทำงานอย่างไร เมื่อต้องตีทวนลม ตามลม ลูกกอล์ฟเป็นแบบใด”

“ช็อตอีกแบบ ที่ผมทดลองเปรียบเทียบ ในการฝึกซ้อม คือ ผลลัพธ์จากช็อตที่ผมตีพลาดเล็กน้อย ผมต้องการเห็นว่า มันยังคงให้ระยะห่างที่แตกต่างในแบบเดียวกัน ระหว่างช็อตที่ตีเต็มวงปกติ กับช็อตที่ตีพลาดเล็กน้อย ในตอนที่ผมซ้อมในสนามไดร์ฟ ในช็อตที่ผมตีพลาด หรือรู้สึกว่าตีโดนไม่ดีนัก…ลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ ยังให้ระยะ และความรู้สึกที่ดี ในช็อตที่ผมตีด้วยเว็ดจ์เต็มวง โดยปกติได้ระยะ 140 หลา ผมจะพยายามลองตีที่ระยะ 135 หลา และบางที ลองตีช็อตในพลาดเล็กน้อย เพื่อดูว่าลูกกอล์ฟทำงานอย่างไร ‘ไม่น่าเชื่อว่ามันได้ 132 หลา’ ลูกกอล์ฟที่ทำงานแบบนี้ สำคัญมากสำหรับผม ทำให้ผมมั่นใจได้ว่า ลูกกอล์ฟทำได้แบบที่ผมต้องการ”