Titleist ส่งไม้ไฮบริด TSR รุ่นใหม่ เปิดตัวใน PGA TOUR สัปดาห์นี้

ไม้ไฮบริดที่ถูกใช้ลงแข่งขันใน PGA TOUR มากที่สุด ตั้งแต่ปี 2014, ไม้ไฮบริด Titleist แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานสูงสุด ทั้งในด้านประสิทธิภาพ และความสมรรถนะอย่างต่อเนื่อง ไม้ไฮบริด TSR2 และ TSR3 รุ่นใหม่ จะเริ่มทำฟิตติ้งที่ Titleist National Fitting Centre สนามกอล์ฟธนาซิตี้ ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ และวางตลาด พร้อมกันทั่วโลก วันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ – นับเป็นการยกระดับการพัฒนา และการปรับแต่งไม้ไฮบริดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งให้ประโยชน์กับนักกอล์ฟที่กำลังมองหา ไม้กอล์ฟสำหรับเล่นช็อตยาว ทดแทนการตีด้วยเหล็กยาว

ไม้ไฮบริด TSR รุ่นใหม่ วางตลาดพร้อมกันสองรุ่น: TSR2 เป็นไม้ไฮบริดประสิทธิภาพสูง ที่ให้ความเร็ว และชดเชยความผิดพลาดสูง ในขณะที่ TSR3 มาพร้อมระบบการปรับน้ำหนักที่แม่นยำ และให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการเล่นแต่งช็อต

ไม้ไฮบริด TSR2 และ TSR3 เปิดตัวในการแข่งขันกอล์ฟ PGA TOUR สัปดาห์นี้ ที่รายการ The American Express, เป็นการเพิ่มโมเมนตัมให้กับหัวไม้ตระกูล TSR ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพทั่วโลก ความหลากหลาย และตัวเลือกในการเล่นให้ได้ระยะทางตามที่ผู้เล่นต้องการ ของไม้ไฮบริด TSR รุ่นใหม่ ต่อเนื่องอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับผู้เล่นที่ใช้ไดรเวอร์ และหัวไม้แฟร์เวย์ TSR

“ไม้ไฮบริด TSR2 และ TSR3 รุ่นใหม่ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับการเล่นช็อตยาว” Tom Bennett, Principal Product Manager – Fairways & Hybrids กล่าว “นักกอล์ฟสามารถเลือกระหว่าง ไม้ไฮบริดรูปทรงคลาสสิค และให้มุมเหินสูง อย่าง TSR2 หรือ รูปทรงที่ปราดเปรียว และระบบการปรับน้ำหนักที่แม่นยำของ TSR3 ทั้งสองรุ่น ให้ความเร็วสูง ชดเชยความผิดพลาดสูง และให้มุมเหินสูง สำหรับทดแทนเหล็กยาว เพิ่มความมั่นใจให้กับนักกอล์ฟในการเล่นช็อตยาวทุกช็อต”

ข้อมูลโดยรวมของไม้ไฮบริด TSR:

TSR2: ให้มุมเหินสูง สปินต่ำถึงปานกลาง สำหรับทดแทนเหล็กยาว เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ตีเข้าหาลูกในมุมกวาด หัวของไม้ไฮบริด TSR2 ยาวขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน และมีตำแหน่งของจุด CG ลึกไปทางด้านหลังยิ่งขึ้น พร้อมปรับแต่งฐานด้านล่าง ให้มีการชดเชยความผิดพลาดที่ดียิ่งขึ้น และตีผ่านลูกได้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ มาพร้อมกับรูปทรงคลาสสิคที่นักกอล์ฟชื่นชอบ

  • สามารถปรับน้ำหนักหัวได้ (แบบเดียวกันกับไดรเวอร์/หัวไม้แฟร์เวย์ TSR2)
  • องศาที่วางตลาด RH และ LH: 18°, 21°, 24°

TSR3: ให้วิถีลูกต่ำกว่า และมีรูปทรงที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ที่ได้รับความนิยมสูง พร้อมระบบการปรับตำแหน่งของน้ำหนัก SureFit Adjustable CG Track ที่ปรับได้ถึง 5 ตำแหน่ง ทำให้ผู้เล่นปรับแต่งได้อย่างแม่นยำที่สุด ตามที่ต้องการ ให้ประสิทธิภาพในการเล่นแต่งช็อต และความแม่นยำในการเล่นสูงสุด ไม้ไฮบริด TSR3 มีรูปทรงที่ถูกออกแบบโดยคำแนะนำของผู้เล่นในทัวร์ ให้ความมั่นใจกับนักกอล์ฟในการเล่นทุกช็อต

  • ระบบการปรับน้ำหนัก SureFit CG Adjustability ปรับได้ 5 ตำแหน่ง
  • ปรับน้ำหนักหัวได้ (แบบเดียวกันกับไดรเวอร์/หัวไม้แฟร์เวย์ TSR3)
  • องศาที่วางตลาด RH และ LH: 19°, 21°, 24°

ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีของไม้ไฮบริด TSR:

  • ปรับแต่งรูปทรง และขนาด: ไม้ไฮบริด TSR2 มีรูปทรงคลาสสิค และมีความยาวของหัวที่มากขึ้น ทำให้ตำแหน่งของจุดศูนย์กลางในการปะทะลูก อยู่ห่างจากก้านมากขึ้น ช่วยเพิ่มการดีดตัวของหน้าไม้ ทำให้ความเร็วลูกกอล์ฟสูงขึ้น และชดเชยความผิดพลาดมากยิ่งขึ้น | ไม้ไฮบริด TSR3 มีรูปทรงค่อนไปทางเหล็กมากกว่า รูปทรงออกแบบตามคำแนะนำของผู้เล่นในทัวร์ มีออฟเซ็ทลดลงเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • CG ลึกยิ่งขึ้น ชดเชยความผิดพลาดสูงขึ้น และมีค่าอินเนอร์เทียสูง: ทีมวิศวกรของ Titleist วางตำแหน่งของจุด CG ของไม้ไฮบริด TSR2 ให้ลึกยิ่งขึ้น และอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ทำให้มุมเหินของลูกสูง และตกเข้าเป้าหมายอย่างนุ่มนวล อีกทั้งยัง ตีได้ง่าย และชดเชยความผิดพลาดสูงสุด | ไม้ไฮบริด TSR3 ถูกออกแบบให้มีความเสถียรที่มากยิ่งขึ้น จากหัวที่มีค่าอินเนอร์เทียสูง ซึ่งช่วยลดการเปลี่ยนทิศทาง และการหมุนของหน้าไม้ เมื่อต้องเล่นในไลยาก
  • เร็วขึ้นเมื่อตีผ่านรัฟ: ฐานด้านล่างของ TSR2 และ TSR3 ถูกออกแบบให้มีช่องในส่วนหลัง ซึ่งช่วยทำให้ตีผ่านลูกได้เร็วขึ้น จากสภาพรัฟทุกแบบ ไม่ว่าจะรัฟ และบาง พื้นที่ฐานด้านล่างที่ปะทะพื้นลดลง ทำให้แรงต้านจากพื้นลดลง เป็นผลให้ตีผ่านลูกได้อย่างนุ่มนวล ในการเล่นบนแฟร์เวย์
  • ประสิทธิภาพ จากระบบปรับแต่งที่แม่นยำ: ด้วยระบบการปรับน้ำหนัก SureFit Adjustable CG Track ที่ปรับได้ถึง 5 ตำแหน่ง นักกอล์ฟสามารถปรับไม้ไฮบริด TSR3 ได้ละเอียด และแม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้ได้ตำแหน่งของจุด CG ที่เหมาะสมที่สุด
  • เสียง & ความรู้สึก แบบที่นักกอล์ฟชื่นชอบ: เสียง และความรู้สึก ขณะปะทะลูกที่ยอดเยี่ยม มาจากการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม้ไฮบริดทั้งสองรุ่น ถูกออกแบบให้มีเสียง และความรู้สึกตอบสนอง ในแบบที่นักกอล์ฟต้องการ ให้ความสม่ำเสมอ และเพิ่มความเชื่อมั่นในการเล่นทุกช็อต

ก้านสต็อก: ไม้ไฮบริด TSR วางตลาดพร้อมก้านแบบ aftermarket จากบริษัทผู้ผลิตก้านชั้นนำ โดยมีรุ่นที่หลากหลาย เพื่อเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม กับนักกอล์ฟ และสวิง หลากหลายรูปแบบ

  • Tensei 1K Black 85/95g HY: ผลิตจากเส้นใยคาร์บอน 1K และระบบเรซิน Xlink แบบใหม่ พร้อมสีก้านแบบด้าน ให้มุมเหินต่ำ/สปินต่ำ
  • HZRDUS Black 4G 80/90g HY: ออกแบบให้มีมุมเหินต่ำถึงปานกลาง พร้อมการออกแบบ Dual Torsion และปลายก้านแข็ง ให้มุมเหินต่ำถึงปานกลาง/สปินต่ำ
  • Tensei AV Blue 65g HY: ใช้ระบบเรซิน Xlink แบบเดียวกันกับรุ่น 1K Black แต่ปลายก้านมีความแข็งแบบปานกลาง เพื่อให้ตีได้วิถีลูกสูงปานกลาง ให้มุมเหินปานกลาง/สปินปานกลาง
  • HZRDUS Red 60g HY: ให้มุมเหินปานกลาง ถึงสูง พร้อมปลายก้านที่นุ่มกว่า และการออกแบบ Dual Torsion ก้านเป็นสีแบบด้าน ให้มุมเหินปานกลางถึงสูง/สปินปานกลาง

ความยาวก้านมาตรฐาน: 40.5”, 40”, 39.5” (รุ่นสำหรับนักกอล์ฟสตรี ความยาวก้านสั้นกว่ารุ่น สำหรับนักกอล์ฟชาย 1 นิ้ว)

กริพรุ่นสต็อก: Golf Pride Tour Velvet 360 Flat Cap | No Paint Fill

ราคาและการวางตลาด: ไม้ไฮบริด Titleist TSR2 และ TSR3 วางตลาดในประเทศไทย วันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ | โดยมีราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา 11,150 บาท