Titleist ขอแนะนำชุดเหล็ก T-Series – พลังจาก Max Impact
เทคโนโลยีล่าสุด สำหรับชุดเหล็ก สร้างความเร็วได้สูงสุด ตีไกลได้อย่างง่ายดายพร้อมความรู้สึกแบบ Titleist ที่นักกอล์ฟชื่นชอบ
ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมล่าสุด พร้อมการทำงานโดยใส่ใจในทุกรายละเอียด ที่ทำให้เหล็กของ Titleistเป็นชุดเหล็กอันดับ 1 ใน PGA Tour มาอย่างยาวนาน เหล็ก Titleist T-Series วางตลาดพร้อมกันสามรุ่น ซึ่งออกแบบใหม่ทั้งหมด มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีกระดับ
พลังจากเทคโนโลยีล่าสุด – รวมถึง Max Impact ที่ช่วยเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟ และทำให้ตีได้ระยะสม่ำเสมอจากทั่วทั้งหน้าไม้ – เหล็ก T-Series T100, T200 และ T300 รุ่นใหม่ มีทั้งพลัง ประสิทธิภาพ สมรรถนะ และความรู้สึก ที่ดีที่สุด เท่าที่ Titleist เคยมีมา:
• ชุดเหล็กสำหรับนักกอล์ฟจริงจังอย่างแท้จริง T100 มีรูปทรงที่นักกอล์ฟฝีมือดีชื่นชอบ เพิ่มความมั่นใจขณะจรดลูก และให้ประสิทธิภาพที่ผู้เล่นในทัวร์ต้องการ พร้อมความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ของ Titleist T100 เป็นเหล็กแบบมีช่องว่างด้านหลัง ผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จทั้งชิ้น และใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูงสองชิ้น ในใบเหล็กด้วยกระบวนการโคฟอร์จ ทำให้ควบคุมระยะได้อย่างแม่นยำอันเป็นผลมาจากใบเหล็กที่มีความเสถียรอย่างลงตัว
• T200 ออกแบบให้ตีได้ไกล มีรูปทรงใบเหล็ก และให้ความรู้สึกขณะหน้าไม้ปะทะลูก
ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทัวร์ พร้อมเทคโนโลยี Max Impact ที่สร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงสุดและช่วยให้ควบคุมระยะได้อย่างแม่นยำ T200 มีหน้าไม้รูปตัว L ที่บางเป็นพิเศษ – ให้มุมเหินสูงลูกกอล์ฟจะตกลงบนกรีนในมุมชัน และหยุดอย่ารวดเร็ว – ช่วยเปลี่ยนช็อตที่เกือบพลาดเป็นช็อตที่เกือบสมบูรณ์แบบ
• T300 ให้การชดเชยความผิดพลาดสูงสุด รูปทรงทันสมัย มาพร้อมกับหน้าไม้ที่สร้างความเร็วได้สูงขึ้นและให้ความรู้สึกที่นักกอล์ฟชื่นชอบ เทคโนโลยี Max Impact สร้างความเร็วได้สูงสุดจากทั่วทั้งหน้าไม้ที่มีขนาดปานกลาง และชดเชยความผิดพลาดสูงเป็นพิเศษใบเหล็กแบบมีช่องว่างด้านหลัง ที่ช่วยสร้างความเร็ว ให้มุมเหินสูง ตีไกล ชดเชยความผิดพลาดสูง ประสิทธิภาพที่นักกอล์ฟที่ต้องการพัฒนาเกมการเล่นต้องการ
“T-Series เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง และก้าวไปข้างหน้า ของการออกแบบ และเทคโนโลยีของเหล็ก Titleist” Josh Talge, Vice President, Titleist Golf Club Marketing กล่าว “ทีมวิจัยและพัฒนาไม้กอล์ฟของเรา มีขนาดใหญ่ขึ้นเกือบหกเท่า เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่เราออกแบบ และผลิตเหล็ก AP รุ่นแรก เมื่อ 11 ปีก่อน ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้เราสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยการเปลี่ยนแปลง ครั้งใหญ่ ทั้งด้านวัสดุ และโครงสร้าง นอกจากนี้ เรายังเข้าใจดีถึงการนำเทคโนโลยีทั้งหมด มารวมไว้ในโครงสร้างของชุดเหล็ก ที่มีรูปทรง รูปลักษณ์ เสียง
และให้ความรู้สึก ในแบบที่นักกอล์ฟคาดหวังจากเหล็ก Titleist ”
“สามสิ่งสำคัญสำหรับช็อตที่ยอดเยี่ยมในการตีด้วยเหล็ก คือ ระยะ ความแม่นยำ และมุมที่ลูกตกลงพื้น” Marni Ines, Director, Titleist Irons Development, Golf Club R&D กล่าว “เทคโนโลยี T-Series ช่วยให้นักกอล์ฟตีได้ระยะแครี่ไกลขึ้น และได้ระยะทางที่สม่ำเสมอมากขึ้น แม้ว่าจะไม่สามารถตีปะทะลูกได้อย่างหนักแน่น ความแม่นยำ และสม่ำเสมอในการเล่น ก็ยังคงสูงเช่นเดิม ลูกกอล์ฟจะตกใกล้เป้าหมายอยู่เสมอ และด้วยวิถีลูกที่เหมาะสม ลูกกอล์ฟจะตกลงบนกรีน และหยุดอยู่ที่นั่น การตีได้ไกลขึ้นจะหมดความหมายในทันที ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมได้”
MAX IMPACT
เหล็ก T200 และ T300 มีพลังจากเทคโนโลยี Max Impact นวัตกรรมที่โดดเด่น ที่สร้างความเร็วได้สูงสุดจากทั่วทั้งหน้าไม้ของเหล็กกลาง และเหล็กยาว อีกทั้งยังให้เสียง และความรู้สึกที่ดี ขณะหน้าไม้ปะทะลูก หน้าไม้ถูกออกแบบให้บางเป็นพิเศษ และรองรับด้วยก้อนโพลีเมอร์ที่ถูกออกแบบเฉพาะที่ด้านหลัง เป็นการพัฒนาร่วมกันกับทีมวิจัยและพัฒนาลูกกอล์ฟ Titleist – ช่วยให้นักกอล์ฟตีได้ไกลขึ้น และสม่ำเสมอยิ่งขึ้น จากทุกการสวิง
“Max Impact ทำให้เรา สร้างหน้าไม้ได้บางลง และสร้างความเร็วได้สูงขึ้น
ซึ่งช่วยให้ความเร็วสูงกอล์ฟสูงขึ้นไปอีกระดับ” Ines กล่าว “เมื่อระบบทั้งหมดพร้อม เราสามารถทำหน้าไม้ให้บางลง และเร็วขึ้น ซึ่งสร้างความเร็วได้สูงสุด จากทั่วทั้งหน้าไม้ และช่วยสร้างมุมเหินที่เราต้องการทำให้นักกอล์ฟตีได้ระยะที่สม่ำเสมอจากทุกการสวิง กล่าวง่ายๆก็คือ คุณจะตีลูกออนบนกรีน บ่อยครั้งขึ้นและลูกจะหยุดบนกรีนเสมอ”
“เรามั่นใจในความเชี่ยวชาญด้านวัสดุของทีมวิจัยและพัฒนาลูกกอล์ฟ Titleist ในการสร้างก้อนโพลีเมอร์ที่ออกแบบเฉพาะ ที่ไม่เพียงแค่มีความยืดหยุ่น และคืนตัวได้รวดเร็ว
ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการสร้างความเร็ว แต่ยังช่วยซับเสียง ทำให้ชุดเหล็กรุ่นใหม่ให้ความรู้สึกที่นักกอล์ฟชื่นชอบ ในโครงสร้างของเหล็กทุกแบบ” Ines กล่าว
การทดลองอุปกรณ์ และทำฟิตติ้ง แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้ นักกอล์ฟสามารถสัมผัสถึงประสิทธิภาพของชุดเหล็ก T-Series รุ่นใหม่
โดยไปทำฟิตติ้งที่ Titleist National Fitting Centre สนามกอล์ฟธนาซิตี้
หรือไปที่วันทำกิจกรรมทดลองอุปกรณ์ และทำฟิตติ้ง ตามสนามไดร์ฟกอล์ฟต่างๆ (รวมถึง Titleist Thursdays) ที่เราจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในสนามไดร์ฟกอล์ฟและสนามกอล์ฟต่างๆทั่วประเทศจองเวลาทำฟิตติ้งกับ Titleist ได้ที่ คลิก www.titleist.in.th/golf-club-fitting/appointments
และดูกำหนดการวันทำกิจกรรมทดลองอุปกรณ์กอล์ฟ titleist ได้ที่ www.titleist.in.th/golf-clubs/trial-events
ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของ T100
ชุดเหล็กสำหรับนักกอล์ฟจริงจัง T100 ออกแบบโดยใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้ความแม่นยำสูงสุดแบบที่ผู้เล่นในทัวร์ต้องการ พร้อมให้ความรู้สึกขณะหน้าไม้ปะทะลูก ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Titleist การออกแบบมาจากการทำงานร่วมกันกับนักกอล์ฟในทัวร์โดยตรง – รวมถึง Jordan Spieth ที่เปลี่ยนมาใช้เหล็ก T100 ลงแข่งขัน the Open Championship รายการเมเจอร์สุดท้ายของปีที่ผ่านมา T100 เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการชุดเหล็กที่ให้ประสิทธิภาพแบบเดียวกันกับที่นิยมโดยผู้เล่นในทัวร์
• โครงสร้างแบบใหม่ ช่องว่างด้านหลังสองตำแหน่ง ใบเหล็กผลิตด้วยกระบวนการฟอร์จ
ให้ระยะแม่นยำ และประสิทธิภาพสูงในการควบคุมลูก
• หน้าไม้บางลง การดีดตัวสูงขึ้น ช่วยเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟจากทั่วทั้งหน้าไม้
• ใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูงสองตำแหน่ง ด้วยกระบวนการโคฟอร์จ (เฉลี่ย 66 กรัม ใส่ที่ด้านโคนและปลายของเหล็กกลาง และเหล็กยาว) เพิ่มความเสถียรของใบเหล็ก ให้ระยะที่สม่ำเสมอ
• ฐานด้านล่างรูปทรงใหม่ ที่ผู้เล่นในทัวร์ชื่นชอบ ใบเหล็กมีขอบด้านบนบางลง ออฟเซ็ท ลดลงและฐานด้านล่างมีความโค้งที่มากขึ้น ทำให้ตีผ่านหญ้าได้ดีขึ้น
• ขนาดใบเหล็กแบบไล่ระดับ – ความยาวของใบเหล็ก ความกว้างของฐานด้านล่าง และความยาวของคอไม้ ออกแบบให้มีขนาดไล่ระดับ โดยขนาดใบเหล็กใหญ่กว่าในเหล็กยาว
และเล็กลงอย่างไล่ระดับไปถึงเหล็กสั้น – ทำให้ CG อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มีรูปทรงที่นักกอล์ฟชื่นชอบและมั่นใจ สำหรับเหล็กทุกชิ้นในชุด
• เหล็กที่วางตลาด: 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, P, W50
“สำหรับ T100 เราต้องการสร้างชุดเหล็ก ที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และมีรูปทรงที่นักกอล์ฟฝีมือดีชื่นชอบ ขณะจรดลูก” Ines กล่าว “เหล็กรุ่นนี้ เน้นในด้านความแม่นยำ ไม่ได้สร้างให้ตีได้ไกลที่สุด แต่มันจะให้ระยะที่แม่นยำ ในการเล่นทุกครั้ง และทุกช็อต อีกทั้งยังสามารถเล่นแต่งช็อตได้ดี ในเวลาที่ต้องการ มีรูปทรง รูปลักษณ์ และให้ความรู้สึก แบบที่นักกอล์ฟที่ดีที่สุดของโลกปรารถนา”
ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของ T200
T200 เป็นเหล็กตีไกล สำหรับนักกอล์ฟที่จริงจัง มีรูปทรงที่นักกอล์ฟชื่นชอบ และมาพร้อมกับ Max Impact ที่สร้างความเร็วสูงสุดจากทั่วทั้งหน้าไม้ T200 ออกแบบให้ตีได้ไกลขึ้น อีกทั้งยังมีรูปทรงที่โดดเด่นความรู้สึกยอดเยี่ยม วิถีลูกที่เหมาะสม และพลังในการหยุดลูกบนกรีน แบบที่นักกอล์ฟต้องการ
• เทคโนโลยี Max Impact สร้างความเร็วได้สูงสุด และช่วยให้ควบคุมระยะได้แม่นยำ
จากทั่วทั้งหน้าไม้รูปตัว L ที่ผลิตจากเหล็ก SUP-10 ผ่านกระบวนการฟอร์จ
• ใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูง (เฉลี่ย 90 กรัม ใส่ที่ด้านโคน และปลายของเหล็กกลาง และเหล็กยาว)ทำให้ตำแหน่งของจุด CG ต่ำลง ให้มุมเหินของลูก และพลังในการหยุดลูกบนกรีนสูงขึ้น
• ขนาดใบเหล็กแบบไล่ระดับ – ความยาวของใบเหล็ก ความกว้างของฐานด้านล่าง
และความยาวของคอไม้ ออกแบบให้มีขนาดไล่ระดับ โดยใบเหล็กมีขนาดใหญ่กว่าในเหล็กยาวและเล็กลงอย่างไล่ระดับไปถึงเหล็กสั้น – ทำให้ CG อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
มีรูปทรงที่นักกอล์ฟชื่นชอบและมั่นใจ สำหรับเหล็กทุกชิ้นในชุด
• รูปทรงและความรู้สึกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทัวร์ ขอบด้านบนของใบเหล็กบางลง
และฐานด้านล่างมีความโค้งมากขึ้น ทำให้ตีผ่านหญ้าได้ดีขึ้น
• เหล็กที่วางตลาด: 4, 5, 6, 7, 8, 9, P, W48
“เมื่อคุณมีเทคโนโลยีหน้าไม้อย่าง Max Impact สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการสร้างโครงสร้างของใบเหล็กให้สมดุลโดยใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูง ซึ่งทำให้ค่า MOI ของใบเหล็กสูง ช่วยเพิ่มความเสถียร ขณะหน้าไม้ปะทะลูก” Ines กล่าว “การที่ค่า MOI สูงเช่นนี้ ในขณะที่ใบเหล็ก ยังมีขนาดกะทัดรัด ทำให้หน้าไม้ สร้างพลังในการดีดตัวไปที่ลูกกอล์ฟได้สูงกว่า เมื่อตีพลาดกลางหน้าไม้ และยังช่วยให้ตีได้ระยะสม่ำเสมอ
ถ้าใบเหล็กของคุณ ไม่มีค่า MOI สูง คุณจะไม่ได้ประโยชน์จากหน้าไม้ความเร็วสูงแบบนี้”
ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของ T300
เหล็กสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการพัฒนาเกมการเล่น T300 มาพร้อมกับพลังจากเทคโนโลยี Max Impact สร้างความเร็วได้สูงสุด จากหน้าไม้ขนาดปานกลาง ที่ชดเชยความผิดพลาดสูงมากเป็นพิเศษ T300 ออกแบบสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเหล็กที่ให้ มุมเหินของลูกสูง ตีได้ไกล และชดเชยความผิดพลาดสูง
ที่มั่นใจได้
• เหล็กแบบมีช่องว่างด้านหลัง ความเร็วสูง ขนาดปานกลาง ออกแบบให้ตีได้ไกลที่สุด
และชดเชยความผิดพลาดสูงสุด
• เทคโนโลยี Max Impact สร้างความเร็วได้สูงสุด และให้ระยะที่สม่ำเสมอ
• ใส่ทังสเตนความหนาแน่นสูง (เฉลี่ย 52 กรัม ที่ด้านโคน และปลายของเหล็กกลาง และเหล็กยาว)ทำให้ตำแหน่งของจุด CG ต่ำลง ให้มุมเหินสูงขึ้น และช่วยให้ตีลูกลอยได้ง่าย • ขนาดใบเหล็กแบบไล่ระดับ – ความยาวของใบเหล็ก ความกว้างของฐานด้านล่างและความยาวของคอไม้ ออกแบบให้มีขนาดไล่ระดับ โดยใบเหล็กมีขนาดใหญ่กว่าในเหล็กยาว
และเล็กลงอย่างไล่ระดับไปถึงเหล็กสั้น – ทำให้ CG อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมีรูปทรงที่นักกอล์ฟชื่นชอบและมั่นใจ สำหรับเหล็กทุกชิ้นในชุด
• เหล็กที่วางตลาด: 4, 5, 6, 7, 8, 9, P, W48, W53
“T300 เป็นสุดยอดชุดเหล็ก สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการพัฒนาเกมการเล่น” Talge กล่าว “มันตีได้ไกล และให้วิถีลูกสูง ตีง่าย และมีรูปทรงที่โดดเด่น T300 มีค่า MOI สูงกว่าเหล็กประเภทเดียวกันของเราในรุ่นก่อน ทำให้ตีได้ไกลขึ้น และชดเชยความผิดพลาดสูงขึ้น เมื่อคุณจรดลูก คุณจะไม่เชื่อเลย ว่าเหล็กรุ่นนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ถูกบรรจุไว้ในนั้น”
T SERIES กับผู้เล่นในทัวร์
เหล็ก T-Series รุ่นใหม่ ถูกนำไปเปิดตัวให้ผู้เล่นในทัวร์ สองสัปดาห์ก่อนการแข่งขันกอล์ฟ U.S. Open จะเริ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของผู้เล่นที่ได้ทดสอบชุดเหล็กรุ่นต้นแบบ Cameron Smith และ Charles Howell III เปลี่ยนมาใช้ชุดเหล็กรุ่นใหม่ลงแข่งขันในทันทีที่สนาม Pebble Beach ในขณะที่ Justin Thomas เริ่มต้นโดยใช้เหล็ก 4 ของ T100 Jordan Spieth เป็นผู้เล่นที่ให้คำแนะนำในกระบวนการพัฒนาเหล็ก T100 เปลี่ยนมาใช้เหล็กรุ่นใหม่ทั้งชุดที่ The Open Championship ที่ผ่านมา
“ครั้งแรกที่ผมเห็น T100 แม้ว่าชื่อของมันจะไม่ใช่ ‘AP2’ มันยังให้ความมั่นใจกับผมอย่างเต็มเปี่ยม” Spieth กล่าว
“ผมนั่งตรงนั้นและพูดกับเขาว่า ‘ผมใช้เหล็กที่มีชื่อเดิม และชื่อเดียวกันมาตั้งแต่ปี 2010
ที่จริงแล้วก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ’ ผมใช้ไม้กอล์ฟ Titleist มาตั้งแต่อายุ 12 ปี และมันไม่เคยมาผิดทางในแต่ละครั้งที่มีรุ่นใหม่ มันดีขึ้นเรื่อยๆ และผมมั่นใจเสมอกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ความคิดในการเปลี่ยนชื่อ ซึ่งครั้งนี้เปลี่ยนชื่อเหล็กรุ่นใหม่ทุกรุ่น เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ – แต่จากการใช้งานของผม เหล็กรุ่นใหม่นี้เปลี่ยนไปมากจริงๆ”
Charley Hoffman, Ian Poulter, Scott Stallings และ CT Pan เป็นส่วนหนึ่งของนักกอล์ฟใน PGA Tour กว่า 20 คน ที่เปลี่ยนมาใช้เหล็กรุ่นใหม่ลงแข่งขันแล้ว T100 กลายเป็นเหล็กรุ่นที่มีผู้เล่นใน PGA Tour ใช้ลงแข่งขันมากที่สุด PGA Tour
ก้านสต็อกประสิทธิภาพสูง
ก้านสต็อกของเหล็ก T-Series ประกอบด้วยก้านเหล็กประสิทธิภาพสูง (Nippon NS Pro และ Project X)และก้านกราไฟท์ (Mitsubishi MCA Tensei) ทุกรุ่นเป็นก้านแบบพรีเมียมที่ได้รับความนิยมสูง
พร้อมเทคโนโลยีน้ำหนักก้านแบบไล่ระดับ ในก้านเหล็ก Nippon NS Pro 880 AMC Chrome และก้านกราไฟท์ Mitsubishi MCA Tensei Red ที่ก้านของเหล็กยาวมีน้ำหนักเบากว่า ช่วยเพิ่มมุมเหิน และความเร็ว ในขณะที่เหล็กสั้น ก้านมีน้ำหนักมากขึ้น เพื่อการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น
T100:
• True Temper Project X LZ | มุมเหินปานกลาง สปินต่ำ | 120 กรัม (6.0)
• Nippon NS Pro 880 AMC Chrome | มุมเหินสูง สปินสูง | 93-105-105 กรัม (น้ำหนักเพิ่มขึ้นเบอร์ละ 3 กรัม ตั้งแต่เหล็ก 4 ถึงเหล็ก 8 จากนั้นน้ำหนักคงที่) (R, S)
T200:
• True Temper Project X LZ | มุมเหินปานกลาง สปินต่ำ | 115 กรัม (5.5)
• Nippon NS Pro 880 AMC Chrome | มุมเหินสูง สปินสูง | 93-105-105 กรัม (น้ำหนักเพิ่มขึ้นเบอร์ละ 3 กรัม ตั้งแต่เหล็ก 4 ถึงเหล็ก 8 จากนั้นน้ำหนักคงที่) (R, S)
T300:
• Nippon NS Pro 880 AMC Chrome | มุมเหินสูง สปินสูง | 93-105-105 กรัม (น้ำหนักเพิ่มขึ้นเบอร์ละ 3 กรัม ตั้งแต่เหล็ก 4 ถึงเหล็ก 8 จากนั้นน้ำหนักคงที่) (R, S)
• กราไฟท์: Mitsubishi MCA Tensei Red AM2 | มุมเหินสูง สปินสูง | 54-68 กรัม (น้ำหนักเพิ่มขึ้นเบอร์ละ 2 กรัม) (R)
นอกจากนี้ นักกอล์ฟยังสามารถสั่งซื้อชุดเหล็ก Titleist พร้อมก้านชั้นนำรุ่นอื่นที่เรามีให้เลือกอย่างหลากหลายด้วยการสั่งซื้อแบบคัสตอม และก้านจำนวนมากไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การวางตลาดเหล็ก T-SERIES: เหล็ก Titleist T-Series รุ่นใหม่ วางตลาดพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เริ่มทำกิจกรรมทดลองอุปกรณ์ และทำฟิตติ้ง 15 สิงหาคมนี้
T100 & T200:
• ก้านเหล็ก: ราคาต่ำสุดในการโฆษณา MAP ชิ้นละ 6,320 บาท
T300:
• ก้านเหล็ก: ราคาต่ำสุดในการโฆษณา MAP ชิ้นละ 4,700 บาท
• ก้านกราไฟท์: ราคาต่ำสุดในการโฆษณา MAP ชิ้นละ 5,200 บาท