“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โชว์วงสวิงได้อย่างร้อนแรงตี 9 อันเดอร์พาร์ ไล่บี้ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล วัย 18ปี ปาดหน้าคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ไปครองด้วยสกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ นับตั้งแต่มีการแข่งขันทั้งหมด 14 ครั้ง ขณะที่ “โปรเหมียว” แพตตี้ ธวัชธนกิจ ผู้นำสามวันแรกมาพลาดวันสุดท้าย จบอันดับ 3 ร่วม
ตลอดทั้ง 4 วัน ของการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” นักกอล์ฟสาวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 72 คน ร่วมประชันวงสวิงชิงเงินรางวัลรวม 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 50 ล้านบาท และลุ้นรางวัลพิเศษรถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รุ่น HYBRID TECH มูลค่า 1,799,000 บาท กับการทำโฮลอินวันหลุมที่ 16 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 6 – 9 พฤษภาคม 2564 โดยผู้ชนะอันดับหนึ่งจะได้รับเงินรางวัล 240,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7.5 ล้านบาท อันดับสอง 148,877 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4.8 ล้านบาท และอันดับสาม 108,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.4 ล้านบาท โดยมีการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขันไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งผ่านทางช่อง PPTV GOLD บนเว็บไซต์ www.pptvhd36.com แอพลิเคชั่น PPTVHD36 รวมทั้งเฟสบุค และยูทูปของสถานี ฯ และ PPTV HD ช่อง 36
การแข่งขันวันสุดท้ายลุ้นแชมป์กันอย่างตื่นเต้นระหว่างสามโปรสาวไทย “โปรเหมียว” แพตตี้ หรือ ปภังกร ธวัชธนกิจ ผู้นำหลังจบรอบสาม “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล วัย 18ปี จากอันดับสองร่วม และ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล เจ้าของแชมป์เมเจอร์สองรายการ ที่สตาร์ทวันสุดท้ายตามหลังแพตตี้ ผู้นำ 5 สโตรก ซึ่งทั้งสามคนหวังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ นับตั้งแต่มีการแข่งขันครั้งแรกปี 2006
“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล เจ้าของแชมป์เมเจอร์สองรายการ มือ 33 ของโลก และรองแชมป์ฮอนด้า แอลพีจี ไทยแลนด์ 2013 ออกรอบวันสุดท้ายสกอร์ตามหลังผู้นำ 5 สโตรก เริ่มต้นวันอย่างร้อนแรง เก็บ 6 เบอร์ดี้ใน 9 หลุมแรก ทำให้มีโอกาสขึ้นมาลุ้นแชมป์ จากนั้นใน 9 หลุมหลัง เอรียาทำเบอร์ดี้เพิ่มได้ที่หลุม 10 และ 12 และในหลุมสุดท้าย เอรียา มีโอกาสพัตต์อีเกิ้ลที่ระยะราว 10 ฟุต แต่พัตต์ไม่ลงเก็บได้แค่เบอร์ดี้ จบวันสุดท้ายตีถึง 9 อันเดอร์พาร์ 63 โดยไม่เสียโบกี้ เป็นนักกอล์ฟที่ทำสกอร์ดีที่สุดของวันสุดท้าย สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 ขึ้นไปนำบนคลับเฮาส์
ด้าน”โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล วัย 18 ปี ที่ได้รับเชิญร่วมแข่งขันรายการนี้ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพเป็นครั้งแรก ออกสตาร์ทวันสุดท้ายที่อันดับ 2 ร่วม เก็บสองเบอร์ดี้ที่หลุม 1 และ หลุม 2 แม้หลุม 6 พาร์ 4 ตีไปตกบังเกอร์แต่แก้ไขในช็อตสองได้ดีจนเก็บเบอร์ดี้ได้ รักษาโอกาสลุ้นแชมป์ ก่อนจะทำเบอร์ดี้เพิ่มที่หลุม 7 ,10 ทว่าช่วง 9 หลุมหลังมาพลาดเสียโบกี้ที่หลุม 17 ทำให้สกอร์หล่นมาตามหลัง”โปรเม” หลังจากนั้นมีการประกาศพักการแข่งขันราว 30 นาทีเนื่องจากมีประจุไฟฟ้าในสนาม ก่อนที่โปรจีน จะกลับมาเล่นต่อในหลุม 18 หลุมสุดท้าย แต่อาฒยาไม่สามารถทำเบอร์ดี้เพื่อลุ้นเพลย์ออฟ ได้แค่เซฟพาร์เท่านั้น จบวันสุดท้ายด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 ได้รองแชมป์ไปครองและพลาดตั๋วไปแอลพีจีเอ ทัวร์ อย่างน่าเสียดาย
ส่งผลให้เอรียาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ นับตั้งแต่มีการแข่งขันทั้งหมด 14 ครั้ง อีกทั้งเป็นแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 11 ของ”โปรเม” ต่อจากรายการ อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสต์เมนท์ส เลดี้ส์ สกอตติช โอเพ่น 2018 และเป็นแชมป์แรกของเธอในปีนี้ด้วย
เอรียาถึงกับร่ำไห้หลังจากได้แชมป์ให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้เล่นได้ดีมากกระทั่งหลุมสุดท้ายเล่นโฟกัสทุกช็อตแล้วก็ทำได้ รู้สึกดีใจ และภูมิใจมากที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ซึ่งเป็นแชมป์ที่คนไทยรอมานานมาก”
ขณะที่อาฒยา รองแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ให้สัมภาษณ์ว่า “ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีเยี่ยมกับโอกาสการเข้าใกล้กับการเป็นแชมป์ แต่กับพัตต์สุดท้ายได้แต่คิดในใจว่าขอแค่พัตต์ดีๆสักหนึ่งพัตต์และทำให้ดีที่สุด รู้สึกภูมิใจกับตนเองมากเพราะได้ทำดีที่สุดแล้ว อีกทั้งรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เพราะที่นี่ให้ประสบการณ์ที่ดีกับเธอเสมอ”
ด้าน “โปรเหมียว” แพตตี้ หรือ ปภังกร ธวัชธนกิจ นักกอล์ฟไทยมือ 12 ของโลก วัย 21 ปี เจ้าของแชมป์เมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น 2021 ผู้นำจากสามวันแรกมาพลาดในวันสุดท้าย ช่วง 9 หลุมแรก เก็บ 3 เบอร์ดี้ ที่หลุม 2,5 และ 7 แต่มาเสียสองโบกี้ที่หลุม 6 และ 9 ทำให้หล่นไปรั้งอันดับ 3 หลังจากเล่นผ่านไป 9 หลุม ส่วน 9 หลุมหลังแพตตี้เก็บเพิ่ม2 เบอร์ดี้ และเสียดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 12 จบวันสุดท้ายที่สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวมสี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 268 จบอันดับที่ 3 ร่วมกับเอเมี่ หยาง แชมป์เก่า, โซยอน ริว จากเกาหลีใต้ และ แองเจิ้ล ยิน จากสหรัฐฯ
แพตตี้ เผยหลังจบวันสุดท้ายว่า “วันนี้ตีได้ไม่ค่อยดี บอกกับตัวเองว่าเล่นให้ดีที่สุด โฟกัสกับเกมตัวเอง แต่ภูมิใจกับผลการแข่งขันที่ออกมา และดีใจที่ได้มาแข่งขันที่นี่ หลังจบรายการนี้อยากพักผ่อนก่อนและฟื้นฟูสภาพร่างกายก่อนแข่งขันรายการต่อไป”
เอมี่ หยาง วัย 31 ปี จากเกาหลีใต้ แชมป์เก่าและแชมป์ 3 สมัยซึ่งวันสุดท้ายทำสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันว่า “ช่วง 9 หลุมแรกพัตต์ดีแม้จะมีโบกี้แต่โดยรวมสนุกกับเกมวันสุดท้าย ตลอดสัปดาห์แข่งขันที่นี่สนุกกับเกมมากและยินดีที่ได้กลับมาเล่นทัวร์นาเมนท์ที่ประเทศไทยอีกครั้ง หลังจบรายการนี้จะหยุดพักสามสัปดาห์เพื่อชาร์จพลังเพื่อเตรียมพร้อมแข่งขันยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น”
ขณะที่ “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ วัย 21 ปี วันสุดท้ายระเบิดฟอร์ม ทำ 9 อันเดอร์พาร์ โดยไม่เสียโบกี้ จบวันที่9 อันเดอร์พาร์ 63 เป็นนักกอล์ฟที่ทำสกอร์ดีที่สุดของวันสุดท้ายร่วมกับโปรเม สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 273 จบอันดับ 13 ร่วม ซึ่งเป็นผลงานดีที่สุดจากการร่วมแข่งรายการนี้ 3ครั้ง
โปรเมียวกล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “เป็นสัปดาห์การแข่งขันที่สนุกโดยเฉพาะการได้คุณพ่อมาเป็นแคดดี้ วันสุดท้ายฟอร์มพัฒนาดีขึ้นมากตีได้ดีหลายช็อตทำให้เก็บเบอร์ดี้ได้เยอะจนทำให้ทำผลงานดี อย่างไรก็ตาม รู้สึกมีแรงจูงใจอย่างดีเยี่ยมทุกครั้งที่ได้มาแข่งขันที่นี่ และขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับการมอบโอกาสที่ทำให้ได้กลับมาแข่งขันทัวร์นาเมนท์ระดับโลกในประเทศไทย”
ส่วนผลงานนักกอล์ฟไทยรายอื่นๆ มีดังนี้
“โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล มือ 40 ของโลก วัย 26 ปี รองแชมป์ร่วมปี 2018 เก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 จบอันดับที่ 17 ร่วม
“โปรแจน” วิชาณี มีชัย วัย 28 ปี ที่รับเชิญร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก วันสุดท้ายทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 282 จบอันดับที่ 43 ร่วมกับ “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ วัย 31 ปี วันสุดท้ายสกอร์ 1 โอเวอร์พาร์ 73
“โปรจูเนียร์” จัสมิน สุวัณณะปุระ วัย 28 ปี วันสุดท้ายสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 จบอันดับที่ 54 ร่วม
“โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน วัย 17 ปี ผู้ชนะจากเนชั่นแนล ควอลิฟายเออร์ส วันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 285 จบอันดับที่ 57 ร่วม
“โปรมายด์” กานต์พนิตนันท์ เมืองคำสกุล วัย 22 ปี ซึ่งได้รับเชิญร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก วันสุดท้ายทำ 1 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 292 จบอันดับที่ 69 ร่วม
มิสวินนี่ เฮง รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ไอเอ็มจี ประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะการแข่งขัน และขอขอบคุณนักกอล์ฟทุกท่านที่มาร่วมดวลวงสวิงกันอย่างสนุกสนานตลอดสัปดาห์การแข่งขันอันยอดเยี่ยมครั้งนี้ การรวมพลังของนักกอล์ฟหญิงในทัวร์นาเมนต์นี้ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ และดิฉันรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นรายชื่อนักกอล์ฟไทยโดดเด่นในตารางผู้นำการแข่งขันตลอดทั้ง 4 วัน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นสนุกสนานให้กับแฟนกอล์ฟชาวไทยที่ร่วมเชียร์นักกอล์ฟไทยในการคว้าชัยชนะ ผลงานครั้งนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้าและผู้สนับสนุนทุกท่านที่ต้องการพัฒนากีฬากอล์ฟสตรีในประเทศไทยอย่างแท้จริง
ดิฉันขอขอบคุณฮอนด้า ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ และพันธมิตรการจัดการแข่งขันทุกท่านที่ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ช่วยกำหนดแนวทางการดำเนินงานซึ่งทำให้การจัดงานเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นตลอดการแข่งขัน
การจัดการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นจากการรวมพลังของทีมงานและอาสาสมัครทุกท่าน ซึ่งทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้น ดิฉันต้องขอขอบคุณในความทุ่มเทและการทำงานหนักของทุกคน และแน่นอน ขอขอบคุณแฟนกอล์ฟทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนและติดตามการแข่งขันอยู่ที่บ้าน หากเรายังคงคิดถึงการมีผู้ชมแฟนกอล์ฟในสนาม และหวังว่าจะได้ต้อนรับทุกท่านอีกครั้งที่สนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์สในปีหน้า
แม้อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทาย ทัวร์นาเมนต์นี้ยังคงสานต่อ “ความฝันอันยิ่งใหญ่” อันเป็นสโลแกนของการจัดงาน และเราหวังอย่างยิ่งว่าทัวร์นาเมนต์นี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจแก่ทุกคนที่หลงใหลในกีฬากอล์ฟ ซึ่งเราได้พยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ เช่น การจัดการแข่งขัน National Qualifiers เพื่อจุดประกายความฝันแก่นักกีฬารุ่นเยาว์ ซึ่งเราหวังว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เยาวชนของเรามุ่งมั่นสานฝันสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกในอนาคต
เราคาดหวังว่าการจัดรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในปีนี้ จะช่วยปูทางสู่การจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติอื่นๆ ในประเทศไทยซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัย อีกทั้งมีส่วนช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อกีฬากอล์ฟ และเหนืออื่นใด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับนักกีฬาและผู้ชมทุกท่านในการแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022 อีกครั้งในปีหน้า” มิสวินนี่กล่าว
การแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6-9 พฤษภาคม 2564 ทีมงานผู้จัดงานขอขอบคุณ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงศุล กระทรวงมหาดไทย จังหวัดชลบุรีและเมืองพัทยา กองทัพอากาศ กรมแพทย์ทหารอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนช่วยให้การจัดงานประสบความสำเร็จ