พรหม มีสวัสดิ์ เจ้าของสองแชมป์เอเชียน ทัวร์ พร้อมลงสู้ศึกสองรายการใหญ่ของ “เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ตซีรีย์ 2021” ชิงเงินรางวัลรวมรายการละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท กำหนดแข่งขันสองสัปดาห์ติดต่อกัน ณ สนามกอล์ฟระดับชั้นนำของประเทศไทยอย่าง สนามบลูแคนยอน คันทรีคลับ และ สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต ประชันเหล่านักกอล์ฟฝีมือดีของทัวร์ที่เตรียมตบเท้าเข้าชิงชัย หลังจากว่างเว้นการจัดการ แข่งขันไปกว่า 18 เดือน
เอเชียน ทัวร์ ประกาศการกลับมาจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพส่งท้ายฤดูกาล 2020-2021 เริ่มต้นด้วยสองรายการใหญ่ติดต่อกันที่จังหวัดภูเก็ต และได้รับการขนานนามว่าเป็น “เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีย์ 2021” โดยเริ่มจากรายการ บลูแคนยอน ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามบลู แคนยอน คันทรีคลับ ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2564 ตามด้วยรายการ ลากูน่า ภูเก็ต แชมเปียนชิพ ที่สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2564 โดยทั้งสองรายการมีเงินรางวัลรวมให้ช่วงชิงรายการละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท
ล่าสุด พรหม มีสวัสดิ์ ซึ่งเพิ่งกลับประเทศไทยหลังจากเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น และเข้ากักตัวตามโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มากว่า 1 สัปดาห์ ทำให้มีโอกาสได้ไปออกรอบที่สนามบลูแคนยอน คันทรีคลับ และสนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต อีกครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวไม่ได้ลงแข่งขันที่สนามทั้งสองแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี
โปรกอล์ฟชื่อดังชาวหัวหิน เจ้าของฉายา “โลมายักษ์” กล่าวในงานแถลงข่าว เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีย์ ผ่านระบบออนไลน์ว่า “ผมไม่ได้มาแข่งขันที่สนามบลูแคนยอนฯ ตั้งแต่รายการจอห์นนี วอล์กเกอร์ คลาสสิก เมื่อปี 2007 ในส่วนของแคนยอนคอร์สไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงเป็นสนามที่ดีมากเสมอ และเล่นได้สนุก แต่ต้องระวังให้ดีในการตีทีช็อตเนื่องจากมีต้นไม้เป็นอุปสรรค ส่วนสนามลากูน่าฯ นั้น ผมก็ไม่ได้ไปแข่งขันที่นั่นมานานตั้งแต่ รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น ปี 2009 กรีนมีการปรับเปลี่ยนไปมาก มีความท้าทายมากขึ้น แต่ก็ยังมีโอกาสให้ทำเบอร์ดี้ได้มาก”
พรหม ดีกรีแชมป์เอเชียน ทัวร์ สองรายการ วัย 37 ปี ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งเมื่อปลายปีที่แล้วและใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายนานถึง 5 เดือนก่อนเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังเล่นได้ดี แต่เขายอมรับว่าไม่ค่อยพอใจกับผลงานมากนัก
“ที่ญี่ปุ่นค่อนข้างหาสถานที่ฝึกซ้อมได้ยาก หลังจากแข่งจบแต่ละรายการจึงไม่ค่อยได้ฝึกซ้อมเลย 3 วัน ทำให้เกมของผมดร็อปลงไป และการแข่งขันที่ญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่หนักทีเดียว สนามค่อนข้างยากและแคบ ผลงานของผมอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ก็ไม่ดีพอในแบบที่คาดหวังไว้ แม้ผมจะเป็นคนเล่นลูกสั้นได้ดี แต่หญ้าที่นั่นก็แตกต่างออกไป ซึ่งต้องอาศัยเวลาฝึกซ้อมมากกว่านี้”
และทันทีที่ทราบข่าวว่า เอเชียน ทัวร์ พร้อมกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง ทำให้พรหมตัดสินใจวางแผนเดินทางกลับประเทศไทย เขากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลที่จะกลับไปเตรียมตัวสำหรับ เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีย์ 2021 ผมว่ามันเป็นความคิดที่ดี”
โดยสัปดาห์นี้ พรหม มีโปรแกรมลงแข่งขัน 3 รายการติดต่อกัน เริ่มจากออลไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ รายการ สิงห์ พัทยา โอเพ่น ในฐานะอดีตแชมป์ 4 สมัย ตามด้วยรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น ซึ่งมีบิดาของเขาคือ โปรสุเทพ มีสวัสดิ์ เป็นอดีตแชมป์ชาวไทยคนแรกในปี 1991 และรายการ สิงห์ อิสาน โอเพ่น ก่อนจะหยุดพักสองสัปดาห์เพื่อเตรียมลงแข่งขันที่จังหวัดภูเก็ต
พรหม ซึ่งพลาดโอกาสเป็นแชมป์เอเชียน ทัวร์ จากการพ่ายซัดเดนเดธเพลย์ออฟถึง 3 รายการ กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ดีที่ผมมีโอกาสลงแข่งขัน 2-3 รายการ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ เอเชียน ทัวร์ ภูเก็ต ซีรีย์และนี่เป็นสัญญาณที่ดีที่เอเชียน ทัวร์ จะกลับมาอีกครั้ง ผมรู้ว่าเรายังต้องกังวลเรื่องโควิด แต่ทุกคนก็ตั้งตารอที่จะกลับมาพบกัน และจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง”
และเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน 2 รายการที่จังหวัดภูเก็ต เอเชียนทัวร์จะจัดการแข่งขันอีก 2 รายการติดต่อกันที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนมกราคมศกหน้า เพื่อหาตำแหน่งผู้ชนะเลิศเงินรางวัลสะสมสูงสุดของทัวร์ประจำฤดูกาล 2020-2021
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour