บลูแคนยอน ผนึกกำลัง เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ระเบิดศึก บลู แคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ ครั้งแรกไทย ชิง 22.75 ล้านบาท

สนามกอล์ฟ บลู แคนยอน คันทรี คลับ หนึ่งในสนามกอล์ฟที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย ได้รับการการันตีจากทั่วโลก ผนึกกำลังกับ เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ลีคกอล์ฟอาชีพหญิงของ เกาหลีใต้ แถลงข่าวจัดการแข่งขัน บลู แคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม ไม่มีการตัดตัว ชิงเงินรางวัลรวม 650,000 เหรียญสหรัฐ (หรือราว 22,750,000 บาท) ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 ณ สนาม บลู แคนยอน คันทรี คลับ จ. ภูเก็ต 

งานนี้ได้รับเกียรติจากคุณประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการ บริษัท บลู แคนยอน คันทรี คลับ จำกัด เป็นประธานในงานแถลงข่าว โดยมี คุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด และ คุณพิชญา พูลสถิติวัฒน์ (ผู้นําเข้า และ ตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ANEW Golf และ SParms ประเทศไทย) ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย สามนักกอล์ฟสาว “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ, “โปรสตางค์”กรกมล      ศุขอารีย์, และ “น้องน้ำผึ้ง” นวพร สุนทรียภาส นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย ร่วมแถลงข่าว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567

คุณประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการ บริษัท บลู แคนยอน คันทรี คลับ จำกัด กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า “นับเป็นเกียรติที่สนาม บลูแคนยอนฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันเป็นเวลา 3 ปีและนี่ก็คือครั้งแรกที่ เคแอลพีจีเอ ทัวร์ มาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทยและยังมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 650,000 เหรียญสหรัฐ (22,750,000 ล้านบาท) เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมพัฒนา และส่งเสริมกีฬากอล์ฟในเมืองไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก ที่ผ่านมามีนักกอล์ฟสตรีของไทยจำนวนมากที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นของวงการกอล์ฟในเมืองไทยและยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟเยาวชนรุ่นต่อๆไปอีกด้วย อีกทั้งการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าจะส่งผลไปในส่วนอื่นๆ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเอง เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดไปทั่ว ทั้งในประเทศไทย และ ต่างประเทศ คือประเทศเกาหลีใต้ด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าจะสร้างความสนุกสนานท้าทายแบบครบรสให้กับคนดูได้อย่างแน่นอน เพราะมีนักกอล์ฟสตรีฝีมือดีจาก เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน และที่สำคัญผมอยากจะขอให้คนไทยร่วมใจเชียร์นักกอล์ฟสตรีของไทย 11 คนที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้”

คุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ กล่าวว่า บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ในปัจจุบัน โดยการให้การสนับสนุนกิจกรรมกีฬาระดับประเทศและระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด เนื่องจากกิจกรรมทางกีฬาสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคของเราได้โดยตรง สามารถทำกิจกรรมทางการตลาดได้หลากหลายและมีสีสัน ที่ผ่านมาเราได้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬา ซึ่งล้วนแต่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เราได้ให้การสนับสนุนกีฬากอล์ฟมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรายการกอล์ฟชายหรือกอล์ฟสตรี เราสนับสนุนนักกีฬาไทย ที่ผ่านมากีฬากอล์ฟเราก็ได้สนับสนุน โปร พีเค  พัชรจุฑา คงกระพันธ์ ซึ่งรายการแข่งขันนี้ โปรพีเคก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน”

คุณพิชญา พูลสถิติวัฒน์ (ผู้นําเข้า และ ตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ANEW Golf และ SParms ประเทศไทย) กล่าวว่า “SParms เป็นผู้นำด้านการปกป้องผิวจากแสงแดด มีความเชี่ยวชาญเรื่องปลอกแขนกันรังสี UV ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ที่ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบัน SParms ได้รับการรับรองใช้งานโดยนักกีฬาชั้นนำทั่วโลกในอุตสาหกรรมการกีฬา ไม่ว่าจะเป็น กอล์ฟ, จักรยาน, ยิงธนู และกีฬาอื่นๆ ในฐานะแบรนด์ เราทำได้ดีที่สุดคือการให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ในประเทศไทย เรามีแผนที่จะสนับสนุนชนิดกีฬาที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของเราโดยตรงไม่ว่าจะเป็น กอลฟ์, การปั่นจักรยาน, การยิงธนู และกีฬาอื่นๆ โดยเน้นกีฬากลางแจ้งเป็นหลัก และด้วยคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ ที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ป้องกันแสงยูวี สวมใส่แล้วเพิ่มความสมาร์ทและดูดียิ่งขึ้น แถมยังซึมซับเหงื่อได้ดี เพื่อให้นักกีฬาพร้อมลุยทุกสถานการณ์”

“โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ เจ้าของแชมป์อาชีพทั้งหมด 21 รายการ และเป็นรองแชมป์รายการเมเจอร์ Women’s British Open 2018 กล่าวว่า “รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้ร่วมเล่นในครั้งนี้ แหวนเคยเล่นในเคแอลพีจีเอ ทัวร์ มาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งครั้งนั้นก็เป็นการรับเชิญเหมือนกันแต่เล่นที่เกาหลีใต้ ส่วนครั้งนี้ได้มาเล่นในเมืองไทย จึงรู้สึกดีใจมาก โดยเฉพาะการที่ได้มาเล่นที่สนามบลูแคนยอน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสนามชั้นนำของเมืองไทย จึงอยากมาเล่นรายการนี้ที่สนามนี้เป็นพิเศษ วงการกอล์ฟของไทยมีการพัฒนาและเติบโตอย่างมาก เรามีนักกอล์ฟที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ  เรียกว่าตอนนี้กอล์ฟกลายเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ผู้ปกครองหันมาสนใจ และพยายามหาโอกาสให้ลูกหลานได้เล่น แหวนว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับวงการกอล์ฟของไทยในอนาคต”

“โปรสตางค์” กรกมล ศุขอารีย์ กล่าวว่า “ขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆท่านที่ให้โอกาสครั้งสำคัญนี้ รายการนี้เป็นรายการที่ท้าทายมาก ถือว่าเป็นทัวร์ต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้  อีกทั้งได้ร่วมแข่งขันกับมือท็อปของ เคแอลพีจีเอทัวร์ ที่สำคัญคือได้มาร่วมเล่นในสนามที่มีประวัติศาสตร์ และมีความท้าทายมากๆ อย่างบลู แคนยอน ด้วยค่ะ ตอนนี้ความพร้อมมีเต็มที่ค่ะ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ  มีออกซ้อมทุกวัน และฟิตเนสร่วมด้วยค่ะ ส่วนในด้านการเล่นอื่นๆ ยังไม่มีการปรับอะไรเพิ่มเติม”

ด้าน  “น้ำผึ้ง” นวพร สุนทรียภาส นักกอล์ฟทีมชาติไทย “รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเกียรติเชิญร่วมการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ท้าทายสำหรับหนูร่วมลงแข่งกับนักกอล์ฟรุ่นพี่ และยังได้ปะทะกับนักกอล์ฟจากเกาหลีใต้ มีความกดดันบ้าง แต่ก็เตรียมพร้อมเป็นอย่างดี และรายการนี้เป็นรายการสุดท้ายของการเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น หลังจากนั้นก็จะเทิร์นโปร และจะไปคิวสคูล แอลพีจีเอ ต่อไป”

รายการ บลูแคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ  ได้รับการสนับสนุนจาก Siang Pure, Peppermint Field, ANew Golf, SParms (Sun Protect+) แฟนกอล์ฟสามารถรับชมถ่ายทอดสดผ่านทางทรูวิชั่นส์ ช่องทรูสปอร์ต 5 ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น.

แฟนกอล์ฟสามารถซื้อบัตรเข้าชม เพื่อสัมผัสบรรยากาศการแข่งขัน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากนักกอล์ฟสาว เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ได้แล้ววันนี้ โดยบัตรเข้าชมทัวร์นาเม้นต์ทั้ง 3 วัน ราคา 1,000 บาท ชมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 800 บาท ส่วนบัตรเข้าชมรายวันราคา วันละ 400-500 บาท หรือซื้อบัตรเข้าชม      บีซี เล้าจ์ แพ็คเกจ (ส่วนลด 20% สำหรับสมาชิก) พบกับความหรูหราใน บีซี เทอร์เรซ (บริการอาหารฟรี, รางวัลจับฉลากมากมาย และเข้าชมการแข่งขันแบบสุดเอกซ์คลูซีฟ บัตรเข้าชมทั้งทัวร์นาเมนท์ ราคา 7,500 บาท เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 5,000 บาท หรือบัตรเข้าชมในแต่ละวันราคา  2,500-3,000 บาท